Family Characteristic

           

ส่วนประกอบของพืชวงศ์ขิงข่าบางชนิด

          พืชวงศ์ขิงข่าเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว มีเหง้าใต้ดิน (rhizome) บางชนิดมีรากสะสมอาหาร กาบใบ (leaf sheath) อาจห่อกันแน่นตั้งขึ้นคล้ายลำต้นกลายเป็นลำต้นเทียม (pseudostem) มีส่วนน้อยที่ลำต้นเหนือดินพัฒนาได้ดี  แผ่นใบ (blade) มักเรียงสลับระนาบเดียวกัน รูปร่างใบเป็นรูปรีหรือรูปใบหอกแคบ มักมีลิ้นใบ (ligule) ระหว่างกาบใบ และก้านใบ (petiole) อาจมีขนปกคลุม

ส่วนประกอบของดอกพืชวงศ์ขิง-ข่าสกุล Zigiber

ช่อดอก (inflorescence) เกิดที่ปลายยอดของลำต้นเทียมหรือเกิดเป็นช่อต่างหากออกมาจากเหง้าใต้ดินโดยตรง อาจมีใบประดับ (bract) ขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ติดทนหรือหลุดร่วงง่าย หลายชนิดดอกบานเพียงวันเดียว บางชนิดดอกบานช่วงกลางคืน ส่วนประกอบของดอกมีกลีบเลี้ยง (calyx) ที่เชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 3 แฉก หรือมีช่อเปิดด้านข้างช่องเดียว กลีบดอก (corolla) เชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 3 แฉก แฉกด้านบน มักมีรูปร่างต่างจากอีก 2 แฉกเล็กน้อย กลีบปาก (labellum) มีขนาด รูปร่างและสีสันแตกต่างกันมาก และมักมีสีสันสวยงาม กลีบคู่ข้าง (lateral staminode) มี 2 กลีบ มีขนาดใหญ่และมีสีสันคล้ายกลีบปาก หรือมีขนาดเล็กหรือไม่มี เกสรเพศผู้ (stamen) มี 1 อัน อับเรณู (anther) อาจมีรยางค์ด้านล่าง (spur) ด้านข้าง (appendage) หรือด้านบน (crest) เกสรเพศเมีย (pistil) มี 1 อัน ก้านเกสร (style) มักสอดผ่านไประหว่างอับเรณูยอดเกสร (stigma) โผล่พ้นเหนืออับเรณู รังไข่ (ovary) อยู่ต่ำกว่าวงกลีบ มี 3 คาร์เพล และมี 1 หรือ   3 ช่องเปิด เหนือรังไข่อาจมีต่อมผลิตน้ำหวาน ผลแก่แล้วแตก อาจแตกระหว่างแนวตะเข็บ (loculicidal) แตกเป็นช่องเปิดด้านข้าง (folicel) หรือแตกไม่เป็นระเบียบ (irregular ) เมล็ดรูปรีหรือรูปไข่ บางชนิดมีเยื่อหุ้มเมล็ด


Scratchpads developed and conceived by (alphabetical): Ed Baker, Katherine Bouton Alice Heaton Dimitris Koureas, Laurence Livermore, Dave Roberts, Simon Rycroft, Ben Scott, Vince Smith